พระกระยาหารมื้อสุดท้าย (เลโอนาร์โด)

พระกระยาหารมื้อสุดท้าย (เลโอนาร์โด)
เป็นภาพที่มาจากพระกระยาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซู ก่อนที่พระองค์จะทรงถูกนำไปตรึงกางเขนซึ่งเป็นข้อมูลที่มาจากคัมภีร์ไบเบิ้ล

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

พระกระยาหารมื้อสุดท้าย (เลโอนาร์โด)



พระกระยาหารมื้อสุดท้าย (เลโอนาร์โด)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

งานจิตรกรรม
ภาพพระกระยาหารค่ำมื้อสุดท้าย
เลโอนาร์โด ดา วินชี

การวาดแบบ Fesco (เฟสโก หรือ ปูนเปียก)บนพนังปูน
ค.ศ. 1495-1497
วัดซานตามาเรียเดลเลกราซี (มิลาน)
พระกระยาหารค่ำมื้อสุดท้าย หรือ The Last Supper ในภาษาอังกฤษ และ Il cenacolo หรือ L'ultima cena ในภาษาอิตาลี เป็นจิตรกรรมฝาผนัง ที่วาดโดยเลโอนาร์โด ดา วินชี ให้แก่ผู้อุปถัมภ์ดยุค โลโดวิโค สฟอร์ซา (Lodovico Sforza) เป็นภาพที่มาจากพระกระยาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซู ก่อนที่พระองค์จะทรงถูกนำไปตรึงกางเขนซึ่งเป็นข้อมูลที่มาจากคัมภีร์ไบเบิ้ล ภาพวาดนี้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เนื่องจากถูกวาดด้วยปูนเปียกบนผนัง ภาพวาดนี้ยังถือว่าเป็นภาพวาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเลโอนาร์โด ดา วินชี ที่ยังคงสภาพให้มองเห็นได้ในปัจจุบัน และยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในบรรดาจิตรกรรมที่รู้จักกันอยู่ทั่วโลก
ภาพวาดนี้ยังเป็นแกนสำคัญของการเดินเรื่องราวของนวนิยายชื่อดังของโลก รหัสลับดาวินชี ที่มีเนื้อหาระบุว่า เลโอนาร์โด ดา วินชี ได้แฝงปริศนาความลับไว้ในภาพโดยแสดงถึงสาวกหญิงใกล้ชิดผู้หนึ่งซึ่งมีสัมพันธ์กับพระเยซู ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวได้รับการคัดค้านจากศาสนาจักรคาทอลิกอย่างรุนแรง
[แก้] คำอธิบายภาพ
ภาพพระกระยาหารค่ำมื้อสุดท้าย เป็นภาพที่บรรยายให้เห็นถึงปฏิกิริยาของแต่ละอัครสาวก ในช่วงเวลาสำคัญที่สุดช่วงหนึ่ง คือเมื่อพระเยซูได้ทำนายว่า หนึ่งในผู้ร่วมโต๊ะอาหารมื้อนั้นจะทรยศพระองค์ โดยชื่อของอัครสาวกถูกระบุจาก ต้นฉบับ (The Notebooks of Leonardo Da Vinci หน้า 232) ในศตวรรษที่ 19 โดยเรียงลำดับจากซ้ายไปขวาแบ่งเป็นกลุ่มได้ดังนี้ (เรียงลำดับจากหน้าไม่ใช่การนั่ง)
บาร์โทโลมิว, เจมส์ ลูกของอัลเฟียส และ แอนดูรว์ ทั้งกลุ่มแสดงอาการตกใจ
จูดาส์ อิสคาริออท, ปีเตอร์ และ จอห์น จูดาส์ใส่ชุดสีเขียวและสีน้ำเงินผงะถอยหลังเมื่อแผนถูกเปิดโปงอย่างกระทันหัน ปีเตอร์มีท่าทางโกรธและในมือขวาถือมีดชี้ออกจากพระเยซู และอัครสาวกที่อายุน้อยที่สุด จอห์นดูเหมือนจะเป็นลม
พระเยซู
ทอมัส, นักบุญเจมส์ใหญ่ และ ฟิลลิป ทอมัสแสดงท่าทางหงุดหงิด เจมส์ดูตะลึงพร้อมยกมือขึ้นกลางอากาศ ส่วนฟิลลิปดูเหมือนกำลังขอคำอธิบาย
มัทธิว, จูด แทดเดียส และ ไซมอนซีลลอท ทั้งมัทธิว และจูด แทดเดียส หันไปคุยกับไซมอน
ยังมีภาพพระกระยาหารค่ำมื้อสุดท้ายของ เลโอนาร์โด ดา วินชี ที่ถูกเลียนแบบขึ้นในที่ต่างๆ ได้แก่
Chiesa Minorita ที่ เวียนนา
พิพิธภัณฑ์ ดา วินชี ในโบสถ์ Tongerlo ของเบลเยียม
โบสถ์ท้องถิ่นที่ Ponte Capriasca ใกล้ๆ ลูกาโน
[แก้] อ้างอิง
Kenneth Clark.Leonardo da Vinci, Penguin Books 1939, 1993, p144.
"Last Supper (copy after Leonardo)". Retrieved 2008-08-11.
Versions of the story can be found at the following locations Daily Blessings, The Easter Egg Archive, The Last Supper, Truth or Fiction
P.B. Barcilon and P.C. Marinin, Leonardo: The Last Supper, University of Chicago Press, 1999, p19
ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

หญิงกับหญิง เพศและความรักยอดนิยม


รูปแบบรักร่วมเพศในผู้หญิง (Homosexuality female) หรือที่เรียกกันว่า การเล่นเพื่อน เป็นอารมณ์พิศวาสทางเพศ ซึ่งกันและกันระหว่างผู้หญิง ส่วนมากมักจะเป็นชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ค่อยถาวรตลอดไป
ผู้หญิงหลายคนมีความรู้สึกพิศวาสในผู้หญิง หรือเด็กสาวๆ อีกคนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยสาวแล้ว อารมณ์ผิดหวังจากความรักหรือการคบเพื่อนผู้ชาย การมีลักษณะร่างกายหรือฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป หรือการเกิดความกลัวถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดพฤติกรรเบี่ยงเบนทางเพศขึ้น หรือบางครั้งการติดเพื่อนเพศเดียวกันมากเกินไป จนเป็นนิสัย อาจทำให้เกิดความรักจนถึงขั้นที่เรียกว่า มีความต้องการเล่นเพื่อน
การรักร่วมเพศระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงกำลังได้รับความนิยม ในหมู่วัยรุ่นผู้หญิงในปัจจุบันอย่างมาก ซึ่งถือเป็นปัญหาของสังคม ไม่น้อยไปกว่าในเรื่องของผู้ชายชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิง เรื่องความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงและการมีความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างกัน ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง และหากพฤติกรรมนี้กลายเป็นนิสัยแล้ว ก็อาจติดยึดกับพฤติกรรมนี้ไปตลอดเลย แต่การมีพฤติกรรมร่วมเพศเดียวกันในผู้หญิงที่สมบูรณ์จริงๆ นั้น มักจะไม่ค่อยเกิดขึ้นให้เห็นนัก ซึ่งหากจะมีให้พบเห็นผู้หญิงประเภทนี้ ก็จะเป็นประเภทสาวบริสุทธิ์เป็นส่วนมาก
ตามปกติกิริยาท่าทางของผู้หญิงรักร่วมเพศนั้นอาจไม่สามารถ มองได้ออกว่า มีพฤติกรรมแตกต่างไปจากผู้หญิงปกติ บางคนอาจแต่งตัวเป็นผู้หญิงตามลักษณะรูปลักษณ์ภายนอกทางสังคม แต่พฤติกรรมที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในอาจแสดงให้เห็นตรงข้าม กับพฤติกรรมทางสังคม ผู้หญิงที่มีลักษณะความต้องการ ร่วมเพศเดียวกัน จะมีความรู้สึกว่าจะอยู่กันยั่งยืนกว่าคู่ของ รักร่วมเพศในแบบของผู้ชาย และมักให้ความเสียสละ ซึ่งกันและกันได้เสมอ บางคนอาจจะมีการหึงหวงกัน การมีอารมณ์รุนแรงหรืออ่อนหวานซาบซึ้งต่อกันอย่างมาก
ในกรณีที่ผู้หญิงรักร่วมเพศมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย เขาจะมีลักษณะเป็นผู้ชายในแบบผู้หญิงทางร่างกาย แต่พฤติกรรมทางเพศระหว่างกันจะมีลักษณะเป็นผู้ชายมากกว่า เช่น ลักษณะท่วงท่าในการมีเพศสัมพันธ์นั้นผู้หญิงจะต้องการเป็นฝ่ายกระทำมากกว่า
สำหรับเด็กสาวหรือผู้หญิงวัยรุ่น การรักร่วมเพศ อาจเป็นเพียงการศึกษาเพื่อหาความรู้สึกกระสันทางอารมณ์เท่านั้น และค่อนข้างพบได้ยากที่พฤติกรรมรักร่วมเพศในผู้หญิง จะเข้าไปหาหรือเข้าไปปรึกษาแพทย์ เพื่อช่วยให้ตนเอง มีลักษณะนิสัยกลับไปเป็นผู้หญิงเหมือนเดิมเป็นปกติเหมือนคนทั่วๆ ไป
อย่างไรก็ตามการที่ผู้ชายและผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง มีความสัมพันธ์ทางเพศได้ทั้งสองเพศ เราจะเรียก ไบเซ็กชวล (Bisexual) ซึ่งเป็นลักษณะพฤติกรรมอีกรูปแบบหนึ่งที่ผิดปกติ แต่หากมีความต้องการในเพศเดียวกันธรรมดา ในส่วนนี้ผู้หญิงบางคน อาจมีความประสงค์ที่จะขอทำการแปลงเพศ ซึ่งที่ผ่านมานั้น การแปลงเพศจากผู้หญิงเป็นผู้ชายนั้นค่อนข้างยุ่งยากกว่าผู้ชาย แปลงเป็นเพศหญิง แต่ก็มีศัลยแพทย์ในต่างประเทศ เช่น ประเทศฝรั่งเศสหรือที่ในเมืองไทยเราอย่างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก็สามารถทำสำเร็จมาแล้วหลายราย
บางรายมีการตกแต่งสร้างอวัยวะเพศให้ในลักษณะแข็งตัวปานกลาง ตลอดเวลาหรืออาจแข็งตัวเต็มที่ได้มากขึ้น ผู้หญิงที่แปลงเพศเป็นชาย จะมีอวัยวะเพศเป็นชาย จะมีอวัยวะที่บกพร่องไม่เจริญเต็มที่ อย่างผู้ชายจริงๆ ซึ่งศัลยแพทย์อาจเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือ ให้ผู้หญิงกลายเป็นผู้ชายเท่านั้น โดยการใส่ Prosthesis ของเทียมชาย ที่เพิ่มประสิทธิภาพการแข็งตัวให้อวัยวะเพศชายที่สร้างขึ้น
รักกันมาก็เป็นทุกข์ ต้องอดทนเสียสละให้กันและกัน ยิ่งชายที่ต้องการเป็นหญิง ก็จะยอมเสียสละส่วนที่หวงแหนที่สุด ตัดโยนทิ้งไป แล้วสร้างช่องคลอดเทียมให้ชายที่ตัวเองรัก หญิงลักษณะนี้จะสมบูรณ์แบบกว่าแบบที่หญิงแปลงเป็นชาย

วิธีหนี การถูกข่มขืน


1. คนร้ายจะซุ่มรอทีเผลอ ที่โดนบ่อยๆ คือ ล็อคแขนไขว้หลัง มืออุดปากแล้วกระชาก หรือลากเข้าข้างทาง ถ้าเตรียมตัวมาดีก็อาจจะมีอาวุธจี้เพื่อไม่ให้เหยื่อขัดขืน แน่นอนว่าน้อยคนที่เห็นมีด ปืน แล้วจะกล้าใช้แท็คติคที่เรียนมา
2. เมื่อโดนลากเข้าข้างทาง คุณก็จะโดนต่อยท้องเพื่อให้จุก จนไม่มีแรงดิ้น และโดนตบปากหรือต่อยหน้า เพื่อให้กลัวเจ็บ หรือกึ่งๆ หมดสติ จากนั้นถ้าคนร้ายหื่นแบบชาญฉลาดก็จะหาของมาอุดปากคุณไว้ ถ้าโชคร้ายคุณนุ่งกระโปรงมาอาจจะเจอ กกน.ตัวเอง
3. เมื่อคนร้ายเห็นคุณไม่มีแรงดิ้น ก็จะทำการถลกส่วนล่างคุณออก โดยท่าที่นิยม คือ นั่งคร่อมเอว เอาเข่ากดแขนส่วนบนคุณไว้ทำให้ไม่มีแรงมากพอจะผลักแถมยังจุกอยู่อีกตะหาก
4. จากนั้นเมื่อฐานยิงโล่งโจ้ง คนร้ายก็จะงัดจรวดออกมาเตรียมปฏิบัติการ จังหวะนี้ถ้าคุณโชคดียังมีสติอยู่ให้พยายามเซฟแรงไว้รอข้อต่อไป
5. เมื่อคนร้ายพยายามสอดใส่ ให้คุณรวบรวพลังที่มี "ขมิบ" ไว้ครับ คนร้ายก็จะเริ่มเสียสมาธิ เพราะจ้องจะข่มขืนอย่างเดียว ให้คุณอาศัยจังหวะนี้ซึ่งคนร้ายมักจะเผลอลืมกดแขน คว้าลูกป๋องแป๋งเลยครับ โดนลูกเดียวไม่เป็นไร อย่าตกใจปล่อยมือเพื่อกำใหม่ให้โดนสองลูก เดี๋ยวจะหมดโอกาส จากนั้นบีบให้เต็มที่เลยคับ เอาเล็บจิกด้วยยิ่งดี ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครคิดจะฆ่าคุณในตอนนี้หรอก รับรองร้องเสียงหลง จนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
6. หลังจากนั้น อ๊ะๆ อย่าเพิ่งคิดหนีครับ พิจารณาดูคนร้ายให้ดีก่อน รีบประเมินสถานภาพคนร้ายว่า ที่เราทำลงไปหยุดเขาได้ไหม ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ตายตอนโดนข่มขืน แต่จะมาตายตอนนี้แหละครับ เพราะจะหนีอย่างเดียว ตัวเองก็วิ่งไม่ไหว คนร้ายก็ยังลุกขึ้นมาตามทุบหัวเอาได้ ดังนั้นหากเห็นว่าคนร้ายหมดสภาพแน่ๆ และชุมชนอยู่ไม่ไกลจึงค่อยหนีครับ
7. ทีนี้ถ้าคนร้ายแค่เสียจังหวะ คือ อาจจะลงไปนอนตัวงออยู่แป๊บเดียว และมีทีท่าจะลุกขึ้นมา สิ่งที่คุณต้องทำ คือ รีบหาอาวุธให้เร็วที่สุดคับ ไม้ ก้อนหิน ปากกา (ใช้เสียบได้) คัตเตอร์ สเปรย์ ปืน ครกที่จะเอาไปจำนำฯลฯ ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ฝ่าเท้านี่แหละครับ หวดเข้าไปที่บริเวณลูกป๋องแป๋งเลยครับ แต่ส่วนใหญ่จะทำไม่ได้ เพราะคนร้ายมักจะกุมไว้ คนตัวโตๆ ตายเพราะฝ่าเท้าผู้หญิงมีเยอะครับ ยิ่งใส่ส้นสูงด้วย อู๊ย.... หรือไม่ก็เสยที่ กกหู ขมับ ทุบรัวๆ เลยครับ (ไม่แนะนำท้ายทอยหรือคาง เพราะโดนยาก) ถ้ามีก้อนหินโตๆ ทุบกลางหน้าแข้งเลยครับ รับรองเดี้ยง ร้องสามบ้านแปดบ้าน
ที่สุดท้าย อาจจะโหดหน่อย แต่ถ้าทำได้ เวิร์คครับ "นิ้วเท้า" โดยเฉพาะนิ้วเล็กๆ ตั้งแต่นิ้วกลางถึงนิ้วก้อย ใช้หินทุบผัวะเข้าไป อย่าใจอ่อนครับ เอาให้เละไปเลย ถ้าทำดีคนร้ายอาจจะเจ็บถึงสลบครับ จากนั้นรีบจัดเครื่องแต่งกาย คว้าสิ่งของมีค่าพาตัวเองออกไปให้ไวที่สุดครับ
นี่สำหรับเจอตัวต่อตัวนะครับ ถ้ามากกว่าสอง ให้แนะนำว่า "ทำใจครับ" โดนแน่ๆ หนักหรือเบา แล้วแต่บุญแต่กรรม ข้อมูลเหล่านี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆ ไม่มากก็น้อยครับ ข้อมูลจาก Forward Mail

แผ่นดินไหวในเฮติ ไทยห่วงเขื่อนเมืองกาญจน์แตก


แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเฮติ ผู้เชี่ยวชาญไทยเตือนรับมือตามแผน ห่วงเขื่อนเมืองกาญจนฯแตก (มติชนออนไลน์) ชี้ประเทศไทยยังเสี่ยงภัยแผ่นดินไหว-น้ำท่วม ดร.พิจิตต ระบุตัวเลข กฟผ.เผยหากเขื่อน 2 แห่ง กาญจนบุรีแตก ตัวเมืองจะจมน้ำใน 5 ชั่วโมงสูงถึง 25 เมตร กรุงเทพน้ำจะสูง 2 เมตรภายใน 35 ชั่วโมง เดินหน้าแผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์ ปี 2553 – 2562 ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้อำนวยการองค์กรศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย(adpc) กล่าวเมื่อวันที่ 14 มกราคมถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติร้ายแรง แผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ ที่สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สิน ว่า เป็นอุธาหรณ์สำคัญสำหรับประเทศไทยในเรื่องการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาแผ่นดินไหว จากการหารือกับหน่วยงานระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องล่าสุด มีการแสดงความเป็นห่วงเรื่องปัญหาแผ่นดินไหวที่อาจจะเกิดขึ้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง เพราะจังหวัดกาญจนบุรีเป็นที่ตั้งของเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งตั้งอยู่บนแนวแขนงรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์และเจดีย์สามองค์ ที่แยกจากแนวรอยเลื่อนสะแกงในประเทศพม่า หากเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงแล้วทำให้เขื่อนศรีนครินทร์แตก จะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง ผู้อำนวยการองค์กรศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย กล่าวถึงผลที่จะตามมาว่า จะมีปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลไหลลงสู่ด้านล่างภายในระยะเวลา 5 ชั่วโมงน้ำจะไปถึงตัวอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีในระดับความสูง 25 เมตร ภายใน 11 ชั่วโมง น้ำจะไปถึง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ในระดับ 7.5 เมตร ภายใน 23 ชั่วโมง น้ำจะไปถึง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี และจังหวัดนครปฐม ในระดับ 2 เมตร และภายใน 35 ชั่วโมง น้ำจะมาถึงกรุงเทพมหานครในระดับความสูง 2 เมตร ดร.พิจิตต กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นผู้คำนวณและสร้างแบบจำลอง ขึ้นมา เพราะฉะนั้นจังหวัดต่าง ๆ ตามเส้นทางน้ำหลากที่กล่าวมาจะต้องมีการเตรียมความ พร้อมทั้งทางด้านการให้ความรู้กับประชาชน การวางแผนป้องกันทั้ง แผนอพยพประชาชน แผนดูแลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะใน กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่หลายล้านคน มีปัญหารถติดจะต้องหาเส้นทางอพยพที่ไม่สวนกระแสน้ำ เพราะน้ำจะไหลมาตามถนนสายหลัก อย่างถนนเพชรเกษมแน่นอน และหากในช่วงดังกล่าวมีน้ำทะเลหนุนสูงพอดีระดับน้ำอาจจะสูงเกิน 2 เมตร หรือตึกสองชั้นก็ได้ "สำหรับประเทศไทย เราได้ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงมหาดไทย จัดทำแผนระดับชาติซึ่ง ครม. ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2552 ให้ประกาศใช้ แผนปฏิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติในเชิงยุทธศาสตร์ ปี 2553 – 2562 โดยมีแผนป้องกันภัยพิบัติแผ่นดินไหวรวมอยู่ด้วย" ดร.พิจิตต กล่าว สำหรับ รอยเลื่อนสำคัญที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยมีทั้งหมด 9 รอยเลื่อน คือ 1. รอยเลื่อนเชียงแสน ความยาว 130 กิโลเมตร เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3 ริคเตอร์มาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง 2.รอยเลื่อนแพร่ ความยาว 115 กิโลเมตร เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3-4 ริคเตอร์ ไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง 3. รอยเลื่อนแม่ทา ความยาว 55 กิโลเมตร มีแผ่นดินไหวขนาดเล็กเกิดขึ้นบ่อยครั้ง 4. รอยเลื่อนเถิน ความยาว 90 กิโลเมตรเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.7 ริกเตอร์เมื่อปี 2521 5. รอยเลื่อนเมย-อุทัยธานี ความยาว 250 กิโลเมตร เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริคเตอร์เมื่อปี 2518 6. รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ความยาว 500 กิโลเมตร มีแผ่นดินไหวขนาดเล็กไม่น้อยกว่า 100 ครั้งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2526 มีขนาดสูงถึง 5.6 ริคเตอร์ 7. รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ความยาว 250 กิโลเมตร เกิดแผ่นดินไหวเล็กน้อยหลายพันครั้ง 8. รอยเลื่อนระนอง ความยาว 270 กิโลเมตร เกิดแผ่นดินไหว 1 ครั้งเมื่อปี 2521 ขนาด 5.6 ริคเตอร์ 9. รอยเลื่อนคลองมะรุย เคยเกิดแผ่นดินไหวเล็กน้อยที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงในปี 2476 , 2519 และ 2542 ทั้งนี้แผ่นดินไหวที่เกิดจากรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขื่อนทั้งสองแห่ง เคยเกิดแผ่นดินไหวในเดือนเมษายน 2526 ถึง 3 ครั้ง สูงสุดขนาด 5.99 ริคเตอร์